วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

บันทึกถึงเมือง ปาย ตอนที่ 10

   ผมเชื่อว่าใครหลายๆคนที่ไปเมืองปาย จะต้องคิดถึงร้าน  Coffee in love ก่อนแน่ๆ  ตัวร้านตั้งอยู่บนเนินเขา โดยมีฉากหลังเป็นเวิ้งที่ราบขนาดใหญ่ และอ้อมกอดของขุนเขา ทางร้านเองก็ตกแต่งประดับประดาไปด้วย ของสวยๆเหมือนบ้านเนรมิตร ที่ดึงดูดสาวๆ และช่างภาพให้เข้าไปแอ็คท่าถ่ายรูป



"หื้ม...  อ่อๆ  ไปดิ..........ไหนหยิบ แผนที่มาให้มีนหน่อย" ผมบอกนุ้ย  ซึ่งเธอก็หดหัวกลับเข้าไปในบ้าน
เปปนึง ก็โผล่มือออกมาจากหน้าต่าง  ในมือมีแผนที่ ที่ได้มาจากร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ โบกไปโบกมาอยู่

" อ่ะ !! "  นุ้ยบอก ทำเสียงกวนประสาท

" โอ็ยๆ เอาออกมาให้ดีๆ ไม่ได้หรอเนี่ยะ " ผมบอก นอนมองมือเธอแกว่งไป แกว่งมา

" ก็มีนจะหลับ   ลุกขึ้นมาเอาเลย "  นุ้ยพูด ยังทำเสียงยียวนอยู่ดี

  ผมลุกจากฟูกนอน  รู้สึกเหมือนมันมีตัวขี้เกียจมาดึงไม่ให้ลุก  แต่ก็นะ ทำไงได้..   ไปหยิบแผนที่จากมือเธอมาดู   จากเส้นทางที่แผนที่บอกไว้  เราต้องขับกลับไปที่ท่ารถ ผ่านไปทางไปรษณีย์ปาย ออกถนนหลัก เลี้ยวขวา แล้วตามทางไปเรื่อยๆ

" โอเคๆ เจอละ  "  ผมบอก เงยหน้าจากแผนที่  ตอนนี้นุ้ยกำลังใส่เสื้อกันหนาวอีกรอบ
" อ้าวใส่เสื้อกันหนาวอีกและ   หนาวหรอ "  ผมถาม

" บ้า   ร้อนอะดิ  แดดแรงขนาดนี้ ใส่ไปกันแดด "  เธอบอก  แล้วยื่นกระเป๋ากล้องมาให้ผม
" อะ  เอาไปเลย เค้าอยากถ่ายรูป " นุ้ยบอก

   ผมรับกระเป๋ากล้องมาวางไว้ข้างนอก  แล้วก็โยนหนังสือWolrd war Z  สมุดไดอารี่สีดำ กับดินสอ ไปบนเตียง รอบนี้คงไม่ได้ใช้มันหรอกมั่ง เอาไว้นี่ดีกว่า
   หลังจากที่เอาแผนที่ กระเป๋ากล้อง พ็อคเก็ตบุ๊ค และยัยตัวแสบขึ้นมานั่ง เรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับสกูปี้ไอ สีแดง ออกจากที่พัก ไปตามทางที่เรามาตอนแรก  ปากทาง ก่อนถึงบาร์เหล้า มีจุดเติมน้ำมันด้วย เราเลยจัดไปเต็มถัง วันนี้ยังอีกยาวไกล  ^ ^



   รถมอเตอร์ไซต์กับคน 2 คน ขับผ่านใจกลางเมืองปายอีกรอบ พอผ่านร้านอาหารร้านเดิม  ผมคิดในใจขึ้นมาได้ว่า เราลืมหิวไปรึเปล่าเนี่ยะ แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวไปหาอะไรกินข้างหน้าก็ได้  ขับมาถึงไปรษณีย์ปาย
    ไม่เห็นจะเหมือนรูปในโฆษณาของ " บริษัทไปรษณีย์ไทย " เลย  เวลาผมไปส่งของ จะมีป้ายโฆษณาว่าโอนเงินทั่วประเทศ สะดวกรวดเร็วใช้ไปรษณีย์ไทย   ในรูปเป็นคุณป้า กำลังเดินออกมาจากไปรษณีย์ ที่เขียนว่าปาย  แต่ไปรษณีย์ปายในรูปโฆษณา  มันตั้งอยู่โดดเดี่ยวใจกลางหุบเขาเลยนะ   ของจริง เค้าก็เหมือนไปรษณีย์ทั่วไป ตั้งอยู่ตัวเมืองปาย มีสวนดอกไม้เล็กๆ สวยงาม แล้วก็มีป้ายตัวโตๆ เขียนว่า
" ที่ทำการไปรษณีย์ปาย "



   พ้นจากไปรษณีย์มา ก็จะเป็นตลาด ซึ่งตอนนี้ คนไม่พลุกพล่าน มีเพียงรถปิ๊กอัพ สองสามคัน กำลังขนของลงไปที่ร้านชำเล็กๆ  มี 7-11 ด้วยนะที่นี่  กลางคืนถ้าหิว ก็คงไม่มีปัญหาอะไรกับการหาของกิน   พอออกมาถึงถนนเส้นหลัก เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เราเลี้ยวขวา แล้วก็ตามทางไปเรื่อยๆ สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าได้สักพักนึง ก็จะมาถึงร้าน Coffee in love แล้ว



  Coffee in love ตอนเวลาประมาณเกือบๆบ่าย 2 ไม่ค่อยมีคนเยอะเท่าไหร่นะ แว็บแรกที่เห็น เราจะสะดุดตากับบ้านสไตล์ อิตตาลี หลังใหญ่ สีเหลือง  ที่มีการจัดสวนหย่อม ไว้อย่างสวยงาม  ถัดมาจากบ้าน ก็จะเป็นส่วนของร้านกาแฟ ที่ตั้งเก๋ๆ อยู่บนเนินเขา ถัดมาอีกจะเป็นโซนสวนหย่อมน่าถ่ายรูป  มีรถโฟรค์คันงามจอดไว้ ตู้ไปรษณีย์สีแดงสด ซุ้มองุ่น และสวนดอกไม้เมืองหนาวที่กำลังออกดอกโชว์สีสวยตระการตา
  เราจอดรถมอเตอร์ไซต์ไว้หน้าร้าน แล้วเดินตรงเข้าไปในร้าน กะว่าจะหาอะไรอร่อยๆ รองท้องซะหน่อย แต่ผิดคาด ข้างนอกไม่มีคนคงเพราะกลัวแดดมั่ง  แต่ข้างในคนเต็มร้านเลยจ๊าา



 " คนเต็มอะมีน  ไปถ่ายรุปกันดีกว่า " นุ้ยบอกหลังจากที่เห็นแน่ๆแล้วว่าคิวแน่นเอาเรื่อง

เราก็เลยเดินออกมาถ่ายรูปกัน ด้านหน้า










   ถ่ายได้สักพัก คนในร้านก็เริ่มทยอย กันออกมาถ่ายรูปบ้าง  ( ไม่รู้ว่าเพราะเห็นเราถ่ายกันหรือยังไง ) เราเลยตัดสินใจจะไป " สะพานไม้ข้ามแม่น้ำปาย " ในตำนาน นุ้ยบอกว่าเคยเห็นในหนัง อยากไปมว๊าก !!แต่ในแผนที่ไม่มีบอกไว้  ผมเลยเดินไปถามพนักงานในร้าน



" อ่อ  สะพานพังไปนานแล้วคะ  ช่วงฤดูฝน เมื่อสามสีปีก่อน น้ำมาแรงมาก สะพานเก่าแล้วก็เลยพัง "
น้องพนักงานบอกผมมาแบบนั้น  ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่สะพานที่ใครๆก็อยากมา โดนภัยธรรมชาติซัดไปซะเรียบร้อยแล้ว

" เสียดายจัง " นุ้ยบอก แล้วก็ขึ้นมาซ้อนมอเตอร์ไซต์  ทำหน้าเหมือนเด็กโดนแย่งลูกอม

" เฮ้ย !! มาปายทั้งที ยังไงก็ต้องไปถ่ายสะพานไม้ข้ามแม่น้ำให้ได้หละน่า " ผมบอกเธอ  แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สีหน้าดีขึ้นสักนิด

" จะไปถ่ายได้ไงมันพังไปแล้วอะ " นุ้ยบอก  เงยหน้าขึ้นมา ทำหน้าสงสัย

" เชื่อสิ เดี๋ยวมีนพาไปเอง "  ผมยิ้มให้ แล้วบอกเธอ

   เอาจริงๆ ในใจผมมันไม่รู้หรอกว่าสะพานไม้ข้ามแม่น้ำเนี่ยะ  มันจะไปหาได้จากที่ไหน แหง่หละ ผมไม่เคยมาซักหน่อย  แต่การที่เห็นเธอทำหน้าเป็นหมีหิวแซลม่อนแบบนั้น มันทำให้ปากผมพูดออกไปเองอัตโนมัติ
   เราขับรถออกมามุ่งหน้าตรงไปยังเส้นทางที่ไม่มีกำหนดในแผนที่  แถมผมก็ยังไม่รุ้ด้วยว่า มันจะไปหาเจอได้ที่ไหน ขับมาเรื่อยๆ ผ่านกองเลน ที่เรายังไม่ได้แวะเข้าไปตอนนี้  สักพักเราก็มาเจอทางเลี้ยวโค้งซ้ายย แล้วลงเนิน ป้ายบอกทางด้านข้าง บอกผมให้รู้ว่า อีก 500 เมตรเราก็ถึง สะพานประวัติศาสตร์ แล้วผมคิดบางอย่างออกในใจ แต่ยังไม่ชัวร์
   ขับต่อมาอีกนิด ทางซ้ายมือ ผมเห็นป้ายที่เขียนว่า ไร่สตอเบอรี่ ธรรมชาติ 100 %  มีมอเตอร์ไซต์กำลังจะออกมาจากในซอยนั้น เป็นคุณลุงชาวบ้านใส่หมวกฟาง ข้างหลังมีถุงกระสอบใบใหญ่มัดกับตัวรถไว้    ผมตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในซอยนี้แหละ !!!



" มีนไปไหน "  นุ้ยถามเอาคางมาเกยไหล่ผม

" ไปสะพานไม้ไง "  ผมตอบ  ถึงไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา แต่ทำไมผมถึงคิดว่าเธอกำลังยิ้มอยู่

   เราตามป้ายไร่สตอเบอรรี่่ไป เรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านท้องถิ่น ที่ดูน่าอยู่  ตัวบ้านยกสูงเหมือนบ้านคนไทยสมัยก่อน  ใต้พื้นบ้านเป็นลานดินเรียบแปร่  มีเจ้าหมาน้อยวิ่งเล่นกับเด็กชายตัวจิ๋วอยู่  สักพักใหญ่ ๆ เราก็มาถึงบ้านริมเนินเขา ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไผ่  ตัวบ้านเองก็ทำจากต้นไผ่มัดติด ดูสวยดี  ฝั่งตรงข้ามของบ้าน คือสิ่งที่ผมกำลังมองหา
  ทางดิน เทลาดลงไปตามเนิน ตัดผ่านกอไผ่ยักษ์ ที่มีลำต้นใหญ่เว่อร์ๆ พ้นจากตรงนี้ คือสะพานไม้ที่ชาวบ้านใช้สัญจร ตอนนี้น้ำในแม่น้ำน้อยมาก สะพานทำจากไม่ไผ่ ซะเป็นส่วนใหญ่  ปูพื้นสะพานด้วย แผ่นไม้ ที่เหมือนตัดมือ มาจากต้นไม้ใหญ่ๆ  เราจอดรถตรงตีนสะพาน นุ้ยออกเดินนำหน้าไป

" สวย "  นุ้ยบอก เธอกำลังมองไปข้างหน้า ผมไม่เห็นสีหน้าของเธอ
" รู้ได้ไงว่าตรงนี้มี " เธอหันกลับมา ทำแก้มป่องๆ

" เก่งปะหละ "  ผมตอบกวนๆ มองไปข้างหน้า ที่รถมอเตอร์ไซต์ของชาวบ้านกำลังขับข้ามสะพานมา

" รู้ได้ไง ?  " เธอถามย้ำ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ น้ำเสียงเด็ดขาดนิดๆ

" อ่าาาาา....... ก็ไม่รู้หรอก เดาเอาว่าน่าจะมี "  ผมตอบ เบนสายตาไปที่อื่น แก้เขิล

" จะบอกไม่บอก ? " เธอเริ่มทำน้ำเสียงเหมือนจะงอลๆ

" โอเคๆก็เห็นว่า อีกไม่กี่เมตร จะถึง สะพานเหล็กปายแล้ว (ผมหมายถึง สะพานประวัติศาสตร์)
ซึ่ง สะพานมันก็ต้องมีแม่น้ำถูกมะ  แล้วแม่น้ำปาย ก็ยาวอยู่นะ  ถ้าเราขับมาทางหมู่บ้านแถวๆนี้ ก็น่าจะมี สะพานไม้ที่เค้าสร้างเอาไว้ข้ามกันเอง บ้างแหละน่าา " ผมตอบตามความจริง

" โธ่เอ๋ย...  ก็คิดว่ารู้จัก "  นุ้ยบอก อมยิ้ม

" ใครจะไปรู้จักเล่าเนี่ยะ ก็มาด้วยกัน "  ผมตอบเอามือขยี้หัวเธอเบาๆไป 1 ที

" ขอบคุณนะ " เธอพูดเบาๆ (เบามากๆ เหมือนไม่อยากให้ได้ยิน)
" ไปถ่ายรูปกัน !!" นุ้ยบอก  แต่คำนี้เสียงดังเชียว



  สรุปเราก็ได้ถ่ายรูปที่สะพานไม้ ข้ามแม่น้ำปาย โดยระหว่างถ่าย ชาวบ้านก็ขับรถ ผ่านไปมา แล้วก็มองพวกเราว่า ไอพวกเนี่ยะเป็นใคร หลงมาแถวนี้ได้ไง  แล้วไอสะพานที่เค้าผ่านกันทุกวันเนี่ยะ มันน่าถ่ายรูปตรงไหน




" เราไปสะพานเหล็กกันปะ " ผมเอ่ยปากชวน หลังจากที่ถ่ายมาได้หลายรูปแล้ว

" ไปซื้อของเล่นหรอ ? "  นุ้ยตอบกวนๆ
" อื้ม ปะ " เธอบอกแล้วเธอก็ยิ้ม

.....................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น