หลักกิโลเมตร ที่ 0 ของปาย ที่หลายๆคน เฝ้าตามหา (รวมทั้งผมด้วย) ว่ามันอยู่ที่ไหนกันนะ เราอยากถ่ายรูปกับมันเหลือเกิน สาวน้อยขี้แยข้างหลังผม ก็เหมือนกัน แต่เราตามหามันไม่เจอสักที ถ้าค่ำคืนนี้บรรยากาศไม่เงียบสงบ ถ้าค่ำคืนนี้ไม่หนาวและขนาดนี้ ถ้าคืนนี้เราไม่ได้ออกไปลอยโคมกัน หรือถ้าคืนนี้ไม่มืดมิดเท่าตอนนี้ เราคงไม่เห็นแสงสว่าง และสวนเล็กๆที่อยู่หน้าทางเข้าตัวเมืองปาย ป้ายไม้แสดงระยะทางจากกรุงเทพฯ และ หลักกิโลเมตร ตัวป้อมๆ อ้วนๆ ที่ยืนยิ้มรอทุกคนเข้าไปถ่ายรูป
" เฮ้ยยย... นุ้ย นี่ไงๆ " ผมบอก แล้วเลี้ยวรถวูบ เข้าไปจอด ทันที
" เอ๊ยยยยย... ~ " นุ้ยพูด เธอก็คงเห็นแล้วเช่นกัน
" เจอสักทีสินะ .. มองหามาตั้งนาน " ผมบอกเธอ แล้วลงจากรถ
" ทำไมตอนกลางวันเราถึงไม่เห็นกันนะ " นุ้ยหันมาถามผมเบาๆ
" คงเพราะ มันไม่น่าสนใจหละมั่ง.... ตอนนี้มืดไปหมด มีแค่แสงไฟจากตรงนี้เท่านั้น เราเลยเห็น "
ผมตอบนุ้ย ซึ่งถ้าไม่นับดาวบนฟ้าหละก็ จุดนี้แหละที่สว่างที่สุดแล้ว
" ป้ายบอกว่าเราอยู่ห่างจาก กรุงเทพ 823 โล " นุ้ยบอกผม ตามองป้าย
" ไม่ถึง 1,000 เลยหรอเนี่ยะ " ผมมองป้าย รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย
ราวกับว่าเราเดินทางมาไกล แสนไกล อย่างกับสุดขอบโลก อย่างที่ผมบอกตอนนุ้ยโทรหาจริงๆ ส่วนนึงคงเป็นเพราะรถหวานเย็น และ โค้งพันแปด ที่ทำให้ปาย ดูห่างไกล ซะยิ่งกว่า นั่งเครื่องบินไปอเมริกาอีก
อากาศหนาวเริ่มกดดันเราหนักหน่วงขึ้น เรากำลังถ่ายรูปเพลินๆ ควันที่ออกมาจากลมหายใจ เริ่มมากขึ้นๆ ตอนนี้ผมเริ่มแสบจมูกแล้วหละ
" มี๊น ... จมูกแดงแป็ดเลย ไหวปะเนี่ยะ " นุ้ยถามผม
" หื้ม... เอ่า หรอ ไม่รู้เลย " ผมตอบ หันไปมองนุ้ยบ้าง เออจริงแฮะ นุ้ยก็จมูกแดงๆ เหมือนกัน แถมยังตาบวมด้วยอะ
" หื้ม นุ้ยก็จมูกแดง ตาแดง ดูดิ แดงไปยันหมวกอะ " ผมกวนเธอ
" ไอบ้าไม่เกี่ยว.... เอาอีกรูปนึง ถ่ายดีๆ อย่าให้ตาบวมนะ " นุ้ยบอก
หลังจากที่ กอดรัด กับหลักกิโลปาย เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกลับที่พัก ผู้คนยังหนาตาอยู่ตอนเราผ่านถนนคนเดิน ขับตรงไปข้ามสะพานปูน ผ่านร้าน Don't cry ที่มีคนมากมาย สนุกสนานกับเสียงดนตรี น่าเสียดายที่รอบนี้ เราไม่ได้เข้าไปลองนั่งฟังดนตรีดู อาจเพราะนุ้ยและผม ไม่ค่อยชอบบาร์เล้าจ์เหมือนกัน โดยเฉพาะผม ที่ถ้าเกิดลองเข้าไปหละก็ คงจะคิดถึงแอนมากๆ แน่นอน
ถนนค่อยๆชันขึ้น แล้วเราก็มาถึง "ปาย ลานนา" ที่พักแสนสวย ในค่ำคืนสุดท้าย ที่จะได้อยู่ในอ้อมกอดของปาย เราจอดรถหน้าบ้าน แล้วรีบวิ่ง ดุ๊กๆ เข้าไปหลบหนาว ในบ้าน....
ปรากฎบ้าน ในบ้านก็หนาวไม่ต่างกัน - -! อาจเพราะ เราไม่ได้อยู่ในบ้านมาทั้งวัน บ้านเลยไม่มีไออุ่นๆ ไว้ต้อนรับเหมือนเมื่อเช้าตอนตื่นนอน...
นุ้ย เข้าบ้านไปได้ปั๊ป ก็โดดไปมุดอยู่ใต้ที่นอนอีกแล้ว แต่คงยังช่วยไม่ได้มาก เพราะที่นอนเองก็คงอมความเย็นไวมากทีเดียวแหละ
" โอ๊ย... หนาว ~ " นุ้ยมอง ทำท่าแมวซนแอบมอง โผล่มาแค่ตาอีกแล้ว
" ไม่อาบน้ำก่อนหรอวันเนี่ยะ ออกไปข้างนอกมาทั้งวัน " ผมถาม
" โห... ไม่ไหวหรอก หนาวขนาดนี้ " นุ้ยตอบ ซุกตัวดุ๊กดิ๊ก อยู่ข้างใน
อย่าว่าแต่นุ้ยเลย ผมเองก็เหอะ ถ้าให้ไปลุยกับ น้ำเย็นใน 5 เซนติเมตร ก็ยังหวั่นๆ แต่ก็แหม่ วันนี้ทั้งวัน เละเทะ มาขนาดนี้ เอาซะหน่อยแล้วกัน จะได้ นอนสบายๆพรุ่งนี้ตื่นเช้า ผมก็เลยจัดการหอบกระเป๋า แล้วก็เข้าห้องน้ำ ปิดประตู ไปทำภารกิจ สภาพของการอาบน้ำรอบเย็น ก็ไม่ได้ต่างจากการอาบน้ำรอบเช้าหรอกครับ หนาว สุดๆ น้ำอุ่นก็กลายเป็นน้ำเย็นใน ไม่กี่เซนติเมตรหลังจากออกมาจากฟักบัว ก็ต้องนั่งท่าเดิม แล้วเอาฟักบัวมาไล่ถูตามตัว จะได้ไม่หนาวมาก หลังจากอาบเสร็จ ก็ค่อยเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ออกมาข้างนอก นุ้ยนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง ผมคิดว่าเธอหลับแล้วซะอีก
" อ้าวยังไม่นอนอีกอะ " ผมถาม เอาผ้าขนหนูเช็ดหัวไปด้วย
" ไม่เอาเดี๋ยวโดนมีนแกล้ง " นุ้ยบอก มือกดบีบี ตุ๊บๆ
" หื้ม..... อ่อ ว่าจะออกมาแอบหอมแก้มซะหน่อย ถ้านุ้ยหลับแล้ว " ผมตอบกวนๆ
" ไอ้บ้า.. " นุ้ยตอบหยิบหมอนมาเขวี้ยงผม
" โอ๊ยๆ ใครจะไปหอมลง น้ำก็ไม่อาบ หยี๊ !! ~ " ผมเอามือมาบังหน้า แล้วตอบกลับไป
" ใครว่าไม่อาบ กำลังจะไปอาบยะ " นุ้ยตอบแล้ว ลุกขึ้นมาหยิบของ
" เปลี่ยนเสื้อผ้าข้างในห้องน้ำนะ มีนไม่อยากห้องไปข้างนอกหนาว -*- " ผมบอกนุ้ย ก่อนเธอจะเดินเข้าไปข้างใน
" อื้มๆ " นุ้ยบอกผม แล้วก็เข้าห้องน้ำไป
ผมโดดขึ้นไปซุกนอนบนที่นอนบ้าง หื้ม... ไออุ่น ของนุ้ยที่ทิ้งไว้ ทำให้ ที่นอนนี่อุ่นใช้ได้เลยทีเดียว ผมซุกอยู่เปปนึง ก่อนจะหยิบกล้อง ไปชาร์ตและ มือถือเอาออกมาดู .. วันนี้แอนไม่ได้โทรมาหาผมเลย
ผมวางมือถือไว้ที่โต๊ะ แล้วหยิบหนังสือ ขึ้นมานอนอ่านบนเตียง ตัวหนังสือค่อยๆเลือนไหล ไปเรื่อยๆ ผ่านหน้ากระดาษสีขาวๆ ทีละหน้า ผมค่อยๆ ผล่อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ~
" มีน... มีน " ผมได้ยินเสียงแหลมๆ เล็กๆ คุ้นหูเรียก
" มีน... หลับแล้วหรอ " เสียงนุ้ยถามผม กระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
ผมกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ยังมีสติ คงเพราะหลับไปไม่นานเท่าไหร่ นุ้ยค่อยๆ เอื้อมมาหยิบหนังสือออกจากหน้าของผมไป
ผมไม่ได้ลืมตา แต่สัมผัสนัยตา ฟ้องบอกผมว่าตอนนี้ไฟในห้องปิดแล้ว ผมยังแกล้งหลับต่อ อยากรู้ว่าเธอจะทำอะไร
นุ้ยขยับเข้ามาใกลๆ้ผม มากขึ้น แล้วเธอก็ใช้มือปัดผมที่บังหน้าผมออกไป เธอสวมถุงมืออยู่นี่ ผมรู้สึกถึงเนื้อผ้าไหมตอนเธอปัดผมออกให้ นุ้ยยังคงนั่งอยู่ข้างๆ ผม สักพักนึง เธอนั่งนิ่งๆ ไม่ได้ล้มตัวนอนลงมา ผมสงสัยว่า เธอเล่นโทรศัพท์อยู่รึเปล่า แต่ยังแกล้งหลับต่อ ใจเต้นระรัว..
นุ้ยค่อยๆ เอนตัวลงนอน เธอนอนห่างกับผมออกไปและไม่มีส่วนไหนของร่างกายเราที่สัมผัสกันเลย ผมแกล้งทำเป็นพลิกตัวหันหลังให้เธอ แล้วลืมตาขึ้น ตื่นเต้นแฮะ ไม่เคยแกล้งหลับ ระยะประชิดขนาดนี้มาก่อน เมื่อคืนเราก็นอน เตียงเดียวกันมาแล้ว 1 คืน แต่เมื่อคืนเราสลับตำแหน่งกัน เธอหลับก่อนแล้วผมมานั่งเฝ้ามองเธอเหมือนเจ้าหญิงน้อยๆ แล้วผมก็พล่อยหลับไป แต่คืนนี้ผมหลับก่อนเธอยังไม่หลับ.. เอาจริงๆ เรายังไม่หลับทั้งคู่ ในหัวผมเริ่มฟุ้งซ้าน แล้วหละ -*-
ผ้าห่มค่อยๆ ถูกดึงไปทีละนิด อย่างช้า ช้า.. ค่อยๆขยับไปทีละหน่อย นุ้ยคงไม่อยากให้ผมตื่น เธอดึงจนสุดเขตผ้าที่มีให้ดึงแล้วก็ติดส่วนที่ผมทับไว้อยู่ ใจผมเต้นจนรู้สึกเหมือนว่ามันจะกระโดด ออกมาแล้วแหน๊ะ..
นุ้ยค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ ผมนอนนิ่งไม่ไหวติง หัวใจเหมือนจะทะลุ ออกไปด้านหลัง อากาศหนาวเย็น ไม่ช่วยให้ความตื่นเต้นลดลงเลย ตอนนี้ผมรู้สึกว่าไหล่เธอมาชนหลังผมแล้วแหละ พร้อมกับผ้าห่มที่ไม่ได้ตึงเหมือนตอนแรกแล้ว นุ้ยพลิกตัวหันมาหาผม ผมสัมผัสได้จากลมหายในของเธอ ที่รดต้นคอผม
ตื่นเต้น.... ตื่นเต้นสุดๆ แล้วก็คงจะยากเกินห้ามใจเสียเหลือเกิน ที่จะไม่คิดอะไรๆ ไปถึงไหน ต่อไหน แต่ผมคิดในใจว่า เธออาจจะเพลียหลับไปแล้วก็ได้ เมื่อคืน เปปเดียวเธอยังหลับเลยนิหน่า ผมเลยตัดสินใจ พลิกตัวกลับมานอนหงาย....
พอผมพลิกตัวกลับมาเท่านั้นแหละ นุ้ย ก็รีบหันหลังให้ผมทันที !! อ้าวเธอยังไม่หลับนี่หนา ผมตกใจที่เธอหันหนีไปแบบนั้น ผมก็เลย...
" นุ้ยยังไม่หลับหรอ " ผมถามเธอเบาๆ แต่กลับชัดเจน เพราะความเงียบในห้อง
" อื้ม.... มีน หลับไปแล้วไม่ใช่หรอ " นุ้ยตอบเบาๆ เช่นกัน
" เกือบแล้วหละ ถ้าไม่มีคนมาเอาหนังสือ ออกจากหน้ามีน หละก็นะ " ผมตอบ เสียงกวนๆ นิดๆ
" หนาวหรอ.... ? " ผมถามนุ้ยเบาๆ
" อื้ม หนาวกว่าเมื่อวานอีก " นุ้ยตอบกลับมา
" ขยับมานี่สิ มีนไม่ทำอะไรนุ้ยหรอก " ผมตอบ.... ผมคิดแบบนั้น จริงๆ
นุ้ยขยับเข้ามาใกล้ๆ จนเราเกือบนอนหมอนเดียวกันแล้ว ผมยกแขนขึ้นให้เธอเข้ามานอนทับแขนซบไหล่ผม
" ขยับเข้ามาเถอะ ระหว่างทาง นุ้ยก็นอนซบแบบนี้มาตลอด ไม่ชินอีกหรอ " ผมถามเบาๆ
" ก็นั่นมันบนรถ แต่นี่มันไม่ใช่นี่หน่า " นุ้ยตอบแล้วขยับเข้ามานอนบนแขนพิงไหล่ผม
ผมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเส้นผมนุ้ย เปล่านะเธอไม่ได้สระผมหรอก แต่กลิ่นนี้ มันเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของตัวเธอต่างหาก ผมสงบจิต สงบใจตัวเองแล้วเลิกฟุ้งซ่าน นุ้ยไม่ได้ กอดผม หรือทำอะไรมากกว่า นอนทับแขนซบไหล ผมก็ไม่ได้ทำอะไรอื่นอีกเช่นกัน ความรู้สึกตื่นเต้นค่อยๆ ลดลงไป พร้อมๆสติของตัวผมเอง อากาศหนาวทำให้เราใกล้ชิดกัน กว่าที่เคย แค่เท่านี้แหละ ผมเตือนตัวเอง เท่านี้ก็มากพอแล้ว...... -_- Z..zZz
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ผมลืมตาขึ้นมา.... มือสนิด ไม่รู้เลยว่ากี่โมงแล้ว ผมคงตื่นเพราะ ใจกังวลว่าเช้านี้ จะไปบ่อน้ำพุร้อนไม่ทันหละมั่ง พอตื่นปั๊ปก็พบว่าตัวเองตอนนี้ โดนยัยตัวแสบยึดครองไปแล้วแหละ เธอหันหน้าเข้าหาผม แล้วกอดผมไว้ด้วยมือข้างซ้าย
แต่ถ้าหากคุณคิดว่ากอดด้วยมือข้างซ้ายมันโรแมนติก น่ารัก กุ๊กกิ๊กดี เธอแถมขาข้างซ้ายมาก่ายผมด้วย ผมรู้สึกตลกกับสภาพของเราตอนนี้มาก ดูหน้าเค้าสิ๊ หลับไม่รู้เรื่องเลย เธออาจจะคิดว่าผมเป็นไอเจ้า พุ่งพลุ้ยอยู่ก็ได้นะ
ผมเพ้าบังหน้านุ้ยไปเต็มหมด ผมก็เลยเอาแขนข้างที่เหลือมาปัดผมเธอออกจากหน้า ก็เลยเห็นหน้าเด็กน้อยขี้แย แถมขี้เซา หลับปุ๋ยอยู่ตอนนี้
ขอโทษนะ ปีเตอร์ ไอไปน้ำพุร้อนอย่างที่ยู กำชับ ไอ นักหนา ไม่ได้หวะ.... ไอว่านะ ถึงน้ำพุร้อนมันจะทำให้นายรู้สึกดีแค่ไหน มันก็คงไม่เท่ากับที่ไอรู้สึกดีอยู่ตอนนี้หรอก... เชื่อดิ
" รักนุ้ยนะ " ผมบอกเธอเบาๆ แล้วขโมยหอมเหม่งเธอ ไปอีก 1 ที ก่อนจะหลับตาลงนอนไปพร้อมความรู้สึกว่าอยากให้มันเป็นอย่างนี้ไป ชั่วกาลนาน
..................................................................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น