วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557
บันทึกถึงเมือง ปาย ตอนที่ 8
อากาศหนาวขาดบาดใจของเทือกเขาถนนธงชัย ในยามเช้า ไหลทะลักเข้ามาในรถเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน หมอกคละคลุ้งไปทั่ว ตอนนี้เรานั่งรถส้มมาได้สักพักใหญ่ๆแล้วครับ ส่วนนุ้ย ก็หลับอยู่บนไหล่ผมอีกตามระเบียบ ฤธิ์ยาแก้เมารถนี่มัน แรงเอาเรื่องขนาดน้้นเลยแฮะ
ถนนที่ มุ่งหน้าสู่เมืองปายเส้นนี้ สร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ชาวบ้านเค้าเล่ากันว่า ทหารญี่ปุ่น ที่ถูกส่งมาสร้างเส้นทางเลาะเขาเนี่ยะ ลำบาก อดอยาก แถมพอทำไปเรื่อยๆ หมดกำลังใจจะทำ เพราะมันเป็นทางไต่ขอบเขาตลอดเส้น ไม่สามารถทลายหิน ทำทางตรงๆได้เลย
ชาวบ้านที่ สัญจรผ่านไปมา ก็มักจะพก เหล้าต้ม เอามาฝากทหารเหล่านี้ จะได้มีแรงทำถนนกัน แต่พอดื่มเหล้าไป ก็เมาเอ็ ~ เลยทำทาง คดไปคดมา เดี๋ยวเลี้ยวซ้าย ปาดขวา ลงเนิน สับสนไปหมด แต่มันก็เป็นแค่เรื่องเล่า ขำๆ ของชาวบ้านเค้าหละ นะครับ
ผมกำลังคิดในใจว่า ถ้าผู้หญิงที่มานั่งข้างๆผมเป็นแอน ก็คงจะดีไม่น้อย เราคงจะหายโกรธกันเรื่อง จิปาถะ ทั้งหลาย ผมคงจะเลิกงี่เง่า และดูแลเธอให้มีความสุขมากๆ และตอนนี้ เราคงกอดกันแก้หนาว บนรถส้มคลาสสิกคันนี้
"ฟู่ววว"
อยู่ๆ เครื่องรถมันก็ดับลง ทำเอาคนที่ยังไม่หลับในรถ ต่างมองซ้ายมองขวาว่าเกิดอะไรขึ้น นุ้ยตื่นขึ้นมาทำหน้าเด๋อใส่ผม แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่กระเป๋ารถ เห็นสีหน้าแตกตื่น ของนักท่องเที่ยว ก็ยืนขึ้นบอกทุกคน
"ไม่มีอะไรจ๊ะ กำลังจะเร่งเครื่องรถ เฉยๆ"
พอพี่กระเป๋าบอกเสร็จ พี่คนขับ ก็สับเกียร์ยิกๆ เหยียบคันเร่ง จนเครื่องคำราม "บรื้นนนนนนนนนน !!"
ก้องไปหมด แล้วคุณปู่สีส้ม ก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นเขาตรงหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ได้น่ากลัวนะ แต่เสียงดังเชียวหละ
ทุกครั้งๆที่เราต้องผ่านช่วงขึ้นเขา เสียง "บรื้นนนนนนนนนน !!" ก็จะดัง เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นานๆทีผมก็จะเห็น รถตู้วิ่งโฉบ แซงรถของเราไป แบบฟิ้ววว เร็วมากๆ แล้วก็นานๆทีเหมือนกัน จะผ่านหมู่บ้าน ที่จะมี อนามัยตั้งให้เห็น แล้วก็มีรถส่วนตัวบางคัน วิ่งสวน หรือไม่ก็แซงเราผ่านไป
ผมว่า ผมก็มองทางอยู่เรื่อยๆ นะ แต่ทำไม ผมเผลอหลับไปก็ไม่รู้
แสงแดด ของเวลา 11 โมงสาดเขามาในรถทำให้ผมตื่น เป็นรอบที่ 3 (หลับไป 3 ตื่นแล้ว) แสงแดดที่สาดเข้ามาเพราะเราพ้นช่วงภูเขา ที่มืดครึ้มและยาวนานมาแล้ว ตอนที่จุดที่รถวิ่งอยู่ ไม่มีหมอกหนาเหมือนเดิม แต่มองออกไปนอกรถจะเป็นเป็นที่ราบ ขนาดใหญ่มาก ซึ่งเราพอเดาได้ว่า นั้นแหละเมืองปาย เมืองที่มาแอบ เติบโตอยู่ใจกลางขุนเขา หลบซ่อนตัวจากความวุ่นวายของเมืองหลวง และบ่มเพาะวัฒนธรรมที่สวยงามไว้รอเราอยู่
เราเห็นเมืองปายเหมือนอยู่ใกล้ๆ นี่เอง แต่รถยังวิ่งต่อไป ราวๆ ครึ่งชั่วโมง รถก็จอด
ที่รถจอดไม่ใช่เพราะถึงแล้วนะครับ จอดเพราะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง
คุณตำรวจ(หรือทหาร -*- ) ก็เดินขึ้นมาบนรถ ขอดู บัตรประชาชน ที่ละคน ถ้าของฝรั่งก็จะเป็นพาสปอร์ต จนมาถึง เจ้าเด็กวัยรุ่น เสื้อแดง คนนึง ที่นั่งอยู่ข้างหลังผม
"อ้าว หนีเที่ยวอีกแล้วรึไง วันนี้ทำไม ไม่ไปโรงเรียน" ตำรวจถาม พอเดาๆได้ว่าคงรู้จักกัน
"เปล่าครับพี่ วันนี้ ร.ร หยุด " เด็กเสื้อแดงตอบ เพื่อนๆที่มาด้วยกัน ก็แย่งกันพูดยืนยันว่า วันนี้ มันหยุดแล้ว ไม่ได้หนี โรงเรียนมา
"เออๆ แล้วแต่ เอ้า เอาบัตรประชาชนมามั้ย " คุณตำรวจถาม กลุ่มเด็กห้าว ทั้งหลาย ซึ่งทุกคนก็ก็ทยอย ยื่นบัตรให้ ยกเว้น เจ้าเสื้อแดง
"เฮ้ย !! ลืมเอามาหวะ" เสื้อแดงร้องบอกเพื่อน
คราวนี้ก็ยุ่งกันยกใหญ่ เข้าทางตำรวจที่อยากจะส่งเด็กพวกนี้กลับบ้านอยู่แล้ว ก็เลยจะกักตัวเจ้าเสื้อแดงไว้ รอเรียกผู้ปกครองมารับกลับไป กลุ่มเพื่อนๆ ก็พอกัน งอแง จะไม่ยอมท่าเดียว ทำให้รถต้องจอดรอเคลียร์เรื่องเด็กพวกนี้ก่อน
พักใหญ่ๆ ทีเดียวกว่า จะตกลงกันได้ว่า ทั้งกลุ่มจะนั่งรถกลับไป พร้อมกัน ทั้งหมดเลยลงจากรถ แล้วเราถึงได้ออกเดินทางกันต่อ
พอรถเริ่มเคลื่อน อากาศร้อน จากรถที่จอดนิ่งๆ ก็ค่อยๆถูกพัดหายไปเริ่มรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึง รถบัสหวานเย็น ค่อยๆขับลงเขา เป็นทางเลี้ยวและลงเขาด้วย 2 in 1 แบบนี้ไปเรื่อยๆ พี่คนขับ จะไม่ปล่อยเบรคเลย แกจะแตะเบรค ให้รถค่อยไหลไปช้า ๆ ผ่านโค้งแล้ว โค้งเล่า ซ้ายที ขวาที สลับกันไปมา ผมหละอยากจะหลับลงบ้างจริงๆ แต่อีกใจก็อยากอยู่รอ เมืองปาย ที่กำลัง ค่อยๆคลานเข้ามาหาผมแล้ว
เป็นเวลาเที่ยงแล้ว กว่าเราจะพ้นเขตป่า และเข้าเขตที่เริ่มมีบ้านคน ผมปลุกนุ้ยขึ้นมานั่งดู รั้วเมืองปาย ด้วยกัน แถวๆนี้มีร้านค้า ขายของชำ ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านซ่อมรถยนต์ เอ้ะ มันก็เหมือนเมืองทั่วๆไปนะ แปลกแค่ฉากหลัง จะเป็นเวิ้งเขา ทอดยาว เหมือนโอบกอด เมืองๆนี้ เอาไว้
เส้นทาง ตอนนี้ ไม่เลี้ยว ตะบี้ตะบันแล้ว แต่จะเป็นทาง ขึ้นเนิน ลงเนิน ขึ้นเนิน ลงเนิน แบบนี้แทน สองข้างทางเริ่มมี รีสอร์ท ร้านเค้ก หรือสวนสตอเบอรรี่ ให้เห็นบ้างแล้ว
รถค่อยๆ วิ่งผ่าน ร้านค้า และ รีสอร์ท ต่างๆ มา ก่อนจะมาเลี้ยวซ้าย ตัดหน้าไปรษณีย์ เมืองปาย และตลาดสด
" ถึงแล้วววว " นุ้ยยิ้มแป้น หันมาหาผม ที่ตอนนี้ตื่นเต้นไปหมดแล้ว
รถคุณปู่ค่อยๆ แล่นช้าลง และเลี้ยวซ้ายเข้าจอด ที่ท่ารถเมืองปาย ในเวลา 12.30 ทุกคนค่อยๆ ทยอยลงจากรถ ผมกับนุ้ย ลงช้าหน่อย เพราะไม่อยากเบียดคนเยอะ
" เฮ้อออ ถึงสักทีนะ ปาย " ผมบอกกับตัวเองเบา ๆหลังจากได้ เตะพื้น อ.ปาย สมใจสักที
" มาจนได้นะ ^ ^ " นุ้ยบอก มองหน้าผม แล้วเรา 2 คน ก็ เดินเข้าร่ม วางแผน ว่าจะเอายังไงต่อ
...............................................................
ในที่สุดก็มาถึงจนได้นะครับ จากตอนนี้ไป เราก็จะลุยเมืองปายกันแล้ว เดี๋ยว เย็นๆมาต่อให้นะครับ ^ ^
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น