ถัดจากชิงช้ายูนาน เราเดินเข้าไปในร้านค้า ร้านนึง ของศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนาน ร้านค้านี้เป็นบ้านดิน ข้างในตกแต่งสไตล์โรงเตี๊ยมเหมือนในหนังจีน มีโคมไฟสีแดงด้านหน้าทางเข้า 2 อัน ข้างในเป็นเหมือนร้านขายเครื่องครามของเก่า มีชามใบสวย วางเป็นแถว จานแก้ว จานกระเบื้อง มีลวดลายเหมือนภาพวาดจีนโบราณ วางโชว์ อยู่บนชั้นในร้าน ที่เคาเตอร์มีถาดกาน้ำชาทรงโบราณ และถ้วยน้ำชา วางอยู่อีก 5 ใบ รอบ คงวางไว้สำหรับแจกแขก ที่เข้ามาในร้าน ผมเดินเข้าไปดูตรงที่เป็นเหมือน เครื่องรางเล็กๆ
" มีนชอบหรอ " นุ้ยเดินเข้ามาถามผม
" ก็ชอบนะ ให้คนที่เรารัก " ผมตอบเธอ
ส่วนตัวนะ ผมชอบที่ให้ให้จี้เครื่องรางเล็กๆ ที่เป็นมรกต ชาวจีนเชื่อว่า มรกต เป็นเครื่องรางอย่างนึง ที่จะสื่อถึงความรักและสมบูรณ์ และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในยามค่ำคืน เนื่องด้วยความหมายดีๆ แบบนี้แหละ ผมจึงมักให้เครื่องรางมรกตอันเล็กๆ แก่คนที่ผมรัก เผื่อเป็นตัวแทนของการปกป้องในยามที่อยู่ห่างกัน และเป็นตัวแทนของความรัก เวลาหยิบมันขึ้นมาดูด้วย
" หื้ม แปลกจังผู้ชายชอบของแบบนี้ด้วยหรอ " นุ้ยมองหน้าผม อย่างสงสัย
" ต๊าย ตาย ชั้นไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อย " ผมกวนโอ็ยเธอเล่น
ก่อนที่จะหยิบ ติ้วมรกตรูปกระต่าย อันเล็ก 2 อัน เดินไปตรงเคาเตอร์ไม้ จ่ายเงิน
เราออกจากร้านค้ามา ก็จะเจอกับ ม้า... เจ้ามาตัวไม่สูง แต่ดูหนาๆ สีขาวๆ ขุ่นๆ นุ้ยเดินดุ๋ยๆ ไปดูมัน เหมือนเด็กวิ่งไปซื้อไอติมในสวนสัตว์ ไม่มีผิด
" มันดุ มั้ยอะคะ " นุ้ยถามพี่คนจูงม้า
" ไม่ดุครับ ลูบหัวได้ " พี่คาวบอยหนุ่มยิ้มให้
ในใจผมคิดว่า เอ็ะ พี่น่าจะแต่งตัวแนวจอมยุทธนะ จะเข้ากะฟิลมากเรย 555+
" สนใจขี่มั้ยครับ รอบละ 300 บาท " พี่คาวบอยบอก
" มีน ขี่มั่งมั้ย เดี๋ยวนุ้ยถ่ายรูปให้ " นุ้ยหันมาถามผม ตาเป็นประกาย
" ไปขี่เถอะจ๊ะ เดี๋ยวถ่ายรูปให้ ^ ^ " ผมบอก ขยี้ผมเธอเบาๆ แหม่ ตาเป็นประกายขนาดนี้ ใครจะแย่งลง
สรุป เราก็ได้คาวบอยสาวสุดน่ารัก ขึ้นไปควบม้า เหยาะๆ เดินไปตามทาง ที่พี่คาวบอยตัวจริงจูงนำหน้า พี่เค้าก็จะจูงม้าไปรอบ บริเวณลานกล้างนี้ ตอนแรกจะเฉี่ยวเข้าไปทาง ศูนย์เปิดลมปราณ (ห่ะ !!!) แล้วก็ เดินโฉบมาทาง บ้านดิน ที่ตั้งอยู่เรียงราย 4 หลัง หน้าบ้านจะเป็น สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีหงส์นั้นแหละ มีกอไผ่ด้วย ตลอดระยะทาง พี่จะคอยเบรคเจ้าม้าน้อย ในจุดที่ถ่ายรูปได้สวยๆ ฮื้มรูปถ่าย ก็ได้อารมณ์ดีมากเลยนะ ยกเว้น ฟิลของสถานที่ มันไม่ค่อย แมทกะ หมวกคาวบอยเนี่ยะ - * -
พอลงจากม้า และจ่ายค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินมาต่อกันที่ "พลังลมปราณเปิดจุด เพื่อสุขภาพ" ซึ่งผมแอบสงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วนะ ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ก็ได้แต่สงสัยนะครับ เพราะวันนี้ ปิด !!! เราเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ถ่ายรูป บริเวณด้านนอก
" ปะ หมดแล้ว " ผมบอกนุ้ย
" ไป กินๆ ไปกินข้าวก่อน " นุ้ยบอก ชี้มือไปที่ร้านอาหาร
" เพิ่งกินมาไม่ใช่อ่อ !!! " ผมพูดกับนุ้ยแล้วมองไปที่พุงของเธอ
" ชิมมมม.... อยากลองกิน " นุ้ยบอก ทำเสียงแมวอ้อน
เราเดินเข้าไปที่ร้านอาหาร เลือกนั่งโต๊ะริม สุดซ้ายมือ โต๊ะถูกคลุมด้วยผ้าปูสีแดง เก้าอี้ม้า แบบคนจีนสมัยเก่าห้อยโคมไฟสีแดง ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของอะไรสักอย่างเตะจมูกออกมาจากทางในครัว สร้างบรรยากาศจีนๆได้ดีทีเดียว รอบนี้ เราไม่หิวมาก ก็เลยหยิบเมนูมาเลือกสั่งเฉพาะอาหารซิกเนอเจอร์ ก็คือ หมั่นโถวนึ่ง 2 ลูก หมั่นโถวทอด 2 ลูก ขาหมูน้ำแดง ข้าวเปล่า 2 แล้วก็ชาร้อน 1 ชุด ^ ^
ลองชิมหมั่นโถว ดูก่อน หื้มม อันดับแรกเลยคือนุ่ม นุ่ม มาก กรุ่นๆข้างในด้วยความร้อนที่ไม่มากเกินไปจนรู้สึกเหมือน ไอ้เจ้านี่ เด้งในปากเราได้
ต่อมาก็ขาหมูยูนนาน เอ๋ มองแว็บแรกมันก็ เหมือนขาหมูทั่วไปนะครับ แต่ชามโตกว่า ลองตักมาสักชิ้นดีกว่า ขาหมูนุ่มเปื่อยกำลังดี ตักง่ายทีเดียว มีควันโชยออกมาด้วยนะ ส่งกลิ่นท้าทายยั่วยวน
ปรากฎว่า รสชาติ ไม่เหมือนขาหมูไทยนะครับ หอม..... ~ หอมเครื่องเทศ และมีรสเผ็ด หน่อยๆ แต่ร้อน เพราะทำใหม่ รสชาตินี่ อธิบายไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะยาจีน ก็ได้ ตัวเนื้อหมูเปื่อยกำลังดี รสและกลิ่นแทรกเข้าไปถึงเนื้อด้านใน หนังด้านนอกไม่เหนียว มีมันแทรกอยู่ และละลายในปากเลยหละ
" เป็นไงๆ " ผมเงยหน้าขึ้นมาถามนุ้ย
" อร่อย ๆ มีนลอง หมั่นโถวทอดสิ " นุ้ยบอกผมแล้ว หยิบส่งมาให้ 1 ลูก
หมั่นโถวทอด ซึ่งผมไม่เคยกินเลยหละ อันนี้ แปลกที่มันไม่ร้อนจัดอย่างที่ควรจะเป็น ลองกัดดูดีกว่า
กรอบครับ แป้งด้านนอกถูกทอดจนกรอบ แต่ด้านในกลับเหนียวนุ่ม รสหวาน ที่ปลายลิ้นนิดๆ แต่ไม่อมน้ำมัน ช่างชวนล้ำลายสอดีแท้
" เค้าบอกว่า ต้องราดแบบนี้ นะมีน " นุ้ยบอกผมแล้วเริ่มตัก ขาหมูราดไปบนหมั่นโถว ผมทำตามบ้าง
ฟินครับ ~ 5555+ ใครอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ก็คงต้องมาลองเองแล้วหละ ขาหมูนำพารสชาติและกลิ่นอบอวลเข้มๆ บวก เข้ากับเจ้าหมั่นโถวน้อยๆ ติดหวานที่ปลายลิ้น ราดน้ำจิ้มที่เสริฟมาพร้อมกันด้วย ก็ครบรส กลิ่นหวานแบบเครื่องเทศจีน และความมันส์ของขาหมู เนื้อหมู และ เนื้อแป้งที่เข้ากัน รวมกับน้ำจิ้มได้อย่าง พอดี อร่อยครับ ~ สมกับที่เป็น ซิกเนอเจอร์
" หื้มมม " ผมร้อง จงใจเลียนแบบเธอ นุ้ยหน้ามามองหน้าแล้ว ยิ้มมุมปากหน่อย เหมือนถามว่า "กวนตีนอ่อ" แต่ไม่ได้พูดอะไร กินต่อ ^ ^
หมั่นโถว หมดอย่างรวดเร็ว และต้องสั่งเพิ่มอีก คนละ 2 ลูก สรุปถึงขาหมูจะดู ว่าชามใหญ่ แต่ก็หมดลง อย่างง่ายดาย ปิดท้ายกันด้วยชาจีน ครับ ชาจีนนี่แหละที่ส่งกลิ่นหอมๆ ออกมาในตอนแรกที่เดินเข้ามาในร้าน มันเป็นกลิ่นที่แรกความหิวได้ดีทีเดียว และหลังจาก ทานทุกอย่างแล้ว ปิดท้ายด้วยเจ้านี่อีกครั้ง มันครบสูตรอย่าบอกใคร แล้วเค้ายังบอกว่า มันลด คอเรสสตอรอล ได้ดีด้วยนะ ^ ^
" เป็นไง อิ่มมั้ยคะ ทีเนี่ยะ " ผมถามนุ้ย ซึ่งตอนนี้ สภาพก็จุกแล้วแหละ
" ไม่ไหวแล้วอะ " เธอบอก แอบทำหน้าพะอืดพะอม
ผมหัวเราะเธอ ที่ดื้ออยากกิน แต่ก็นะมันอร่อยจริงๆนั้นแหละ เราจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด ก่อนจะซด ชา 1 แก้วสุดท้าย แล้ว ออกเดินกลับมาที่รถ
" ไปไหนต่อนะคะ ? " ผมถาม ถามไปงั้นแหละ ผมจำได้
" ไปจุดชมวิว " นุ้ยบอก ท่าทางมีความสุข แล้วยิ้มให้
" ไปกลางวันๆ แบบนี้ อะนะ " ผมถามย้ำ อีกที
" ไป เหอะน่าาาา อยากเห็น " นุ้ยบอกผม แล้วก็ โดด ขึ้นมาบนมอเตอร์ไซต์
ผมมองหาป้ายชี้ทาง ซึ่งป้ายบอกว่าจากจุดนี้ เราต้องขึ้นเขาล้วนๆ
" ขึ้นเขาทั้งนั้นเลยอะ นุ้ยตัวหนักด้วย จะไหวปะเนี่ยะ " ผมขับรถออกมาช้า แล้วพูดแซวเธอ
" หื้ม มีนหนักกว่าตั้งเยอะ อย่ามาพูด " นุ้ยเกาะไหล่ผม แล้วตอบกลับ
" ถ้ากลัวร่วง กอดเอวมีนเลยก็ได้นะ "... ผมแซวเธอเล่นๆ
แต่เธอเอื้อมมือข้างซ้ายมากอดเอวผมจริงๆ >//////<
...............................................................................................................................................................
20 แล้ว เย้ๆ !!! เพราะแรงใจจากคอมเม้น เลยมาถึงตรงนี้ได้ ขอบคุณมากเลยครับ ^ ^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น