วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557

บันทึกถึงเมือง ปาย ตอนที่ 16


   มอเตอร์ไซต์สีแดง แล่นออกจากที่พัก ลงเนินเพื่อมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองปาย  รอบตัวมีแต่หมอกหนา  ผมไม่สามารถมองเห็นทางที่เกินระยะ 2 เมตรข้างหน้าได้เลย   ผมเลยตัดสินใจขับช้าๆ เผื่อมีรถสวนจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ   สักพักเราก็มาถึง ร้าน Don'cry ที่ตอนนี้นอนหลับสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางหมอกสีขาว ยามเช้าของเมืองปาย

" มีน จะไปไหนอะ "  นุ้ยถามผม เธอเกาะไหล่ผมไว้ อากาศหนาวของเช้าวันนี้ รุนแรงมากกว่าเมื่อคืน

" ไปดูทะเลหมอกไง "  ผมบอกเธอ  มุ่งหน้าผ่านตัวเมืองปาย ซึ่งเช้านี้ดูเงียบเหงา เพราะอากาศหนาว  ร้านค้าต่างๆ พอมีเปิดบ้างแล้ว แต่ก็น้อยมากๆ  ที่เห็นก็จะมีร้านหมูปิ้ง ซึ่งควันตลบตบตีกับหมอกที่ลงจางๆ  กลายเป็นว่า หมอกแถวนี้ หอมมาก  น่ากินเชียว  เราขับผ่านไปรษณีย์ปายมาแล้ว เลี้ยวขวาตามเส้นทางเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Coffee in love


   คุณจะไม่มีทางเข้าใจเลยว่าเมือง 3 หมอก 3 ฤดูเป็นยังไง ถ้าไม่ได้ขับมอเตอร์ไซต์มากับผมตอนนี้   ด้วยภูมิประเทศที่อยู่ใจกลางหุบเขาสูง  เส้นทางของงถนนนั้น ขึ้นเนิน สลับลงเนิน บ่อยๆ  เวลาเราอยู่ตรงที่ราบจะหนาวมาก  เส้นทางด้านหน้าเราจะมองเห็นหมอกปกคลุมทางลาดชัน ที่ไปบนเนินเขา



   เราฟ่าความหนาวจัดจากที่ราบด้านล่าง ขึ้นมา  จะเข้าสู่ชั้นที่ 2  ที่เป็นเนิน ระดับเดียวกับหมอกเมฆ  เราจะต้องขับรถฟ่าหมอกหนา อากาศชื้น  ที่บริเวณความสูงเท่านี้ๆ  เราจะเห็นชาวบ้านก่อกองไฟใหญ่ๆ ริมถนน  แล้วยืนผิงไฟรอรถ  บางคนคงต้องเข้าเมืองเช้านี้  ตอนนี้เส้นผมของเรา เริ่มเปียก จากไอน้ำค้าง บริมาณมาก ที่เราวิ่งผ่านมา  หยดน้ำเม็ดโตๆ  ปลิวใส่หน้าผม ซึ่งหยดน้ำพวกนี้ เกาะที่หน้ามอเตอร์ไซต์ แล้วไหลมาใส่ผมอีกที   พอเราขับรถผ่านช่วงความสูงระดับเดียวกับเมฆตรงนี้ไปได้  ก็จะกลายเป็นแบบที่สาม



  แบบที่ 3 ที่ว่านี้  เราจะทะลุเมฆออกมาแล้ว  แสงแดดจากพระอาทิตย์ แผดแสง ปล่อยความร้อนออกมาเต็มที่ จากที่เปียกๆ อยู่ ก็กลับ มาร้อนจ้า ทันที  อากาศชื้น เมื่อตะกี้ก็หายไปหมด เหลือเพียงแสงแดดจ้า และพื้นถนน ก็แห้งกริบ  ผมอัศจรรย์กับความรู้สึกนี้มากทีเดียว   3 ฤดู ใน ไม่กี่นาที



  บรรยากาศ แบบนี้เราเจอได้เรื่อยๆ นะครับ  เพราะถนนของปาย จะขึ้นมารับพระอาทิตย์ แล้วก็ลงเนินไปเปียกชื้น  ลงต่ำไปอีก เพื่อให้เราหนาวจากน้ำที่เพิ่งเปียกมา  แล้วถนนก็มุ่งขึ้นเขา กลับมาชื้น แล้วก็กลับมาแห้งและร้อนอีก  ใครที่สภาพร่างกายไม่แข็งแรง  ผมว่ามีสิทธิ์ช็อคกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ง่ายๆเลย

 เรา ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ อยู่สัก 3 รอบ ก็จะมาถึง Coffee in love  ซึ่่งตรงกับที่ผมคาดไว้แฮะ  จุดที่ร้านตั้งอยู่ มันเป็นจุดที่อยู่เหนือความสูงของชั้นเมฆ   พระอาทิตย์กำลังเปล่งแสงเต็มที่  แต่เรายังมาทัน



" สวยจัง "  นุ้ยบอก  หลังจากที่ผมจอดรถที่หน้าร้าน
เวิ้งกว้างที่เมื่อวานเป็นอ้อมกอดของหุบเขา  ในเวลานี้ เป็นทะเลหมอกกว้าง  อาจจะไม่สูงมาก เท่าจุดชมวิวอื่นๆ  แต่สำหรับคนขี้เกียจนอนตื่นสาย = =!   ผมว่า ผมก็แก้ตัวกับเธอได้ดี ในระดับนึงหละน่าา

" ยังหนาวอยู่เลย " ผมบอกนุ้ย  ล็อคคอรถ แล้วเดินตามลงไป

" ถ่ายรูปกัน ไม่มีคนเลย "  นุ้ยบอกผม

"จร้าๆ "  ผมรับคำ แล้วหยิบกล้องออกมาจากกระเป๋า

   อากาศดีชะมัด  ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ  แสงแดด ที่กำลังทอประกาย ไม่จัดนักสำหรับบริเวณนี้  ดอกไม้และต้นไม้ ก็เหมือน นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ เต็มไปด้วยน้ำค้าง และ !!!

" นุ้ยๆ มาดูนี่สิ "  ผมบอกแล้วชี้ ให้เธอมาดู



" โอโห ! "  นุ้ยร้องออกมาเบาๆ  ขณะเดียวกันผมก็เพิ่งสังเกตตัวเองว่า ที่นี่เวลาเราพูด ควันก็ออกปากเหมือนกัน

" นุ้ยมาถ่ายรูปกัน    เอารูปควันออกปากนะ "  ผมบอกเธอ
ซึ่งเธอก็พยายาม เป่าอยู่หลายรอบ  ไม่มีควันเลย มีก็จางๆ ม๊ากกกก



" โอย ไม่ได้สักทีอะ "  นุ้ยบอก รับกล้องไปถือ

" ไม่ได้ไม่เลิก !!! "  ผมบอกจ้องหน้าเธอ

" เอาดิ !! "  นุ้ยรับคำท้า



  สรุปว่ารูปผมชัดสุดละ   ยัยตัวแสบพ่นออกมาไม่เคยจะมีควันเลย  เราเก็บภาพบรรยากาศ อีกนิด ก่อน
จะออกเดินทางต่อ  เป้าหมายต่อไปสะพานท่าปาย
  รถเคลื่อนผ่าน ถนนสามฤดูอีกครั้ง  ครั้งที่แล้วผมมัวทำตัวเหม่อลอย เลยไม่ได้ดูว่า มีไร่สตอเบอรี่ สวยๆ ไร่ใหญ่ๆ อยู่ข้างทาง ซ้ายมือด้วย

" แวะกันมั้ย "  ผมชะลอรถ  ชิดซ้ายให้ พี่ปิ๊กอัพคันหลังแซงไป  แล้วหันมาถามเธอ

" แวะดีมั้ยอะ " นุ้ยถามคืน คราวนี้ไม่เอาไหล่มาเกย สงสัยกลัวเปียก -*-

" งั้นแวะ  เพราะเมื่อวานก็ไม่ได้เรื่อง  "  ผมบอกเธอเชิงบังคับ แล้วเลี้ยวรถเข้าไปที่ไร่



   ไร่สตอเบอรี่ " มนตรี การ์เด้น "  อยู่ที่ความสูงระดับที่ 2 ก็คือระดับเดียวกับเมฆ  เพราะฉันนั้นที่นี่อากาศชื้น และหมอกลงหนาจัด  ร้านค้าของไร่เพิ่งเตรียมตัวเปิดให้บริการ พนักงานสาว 2 คน กำลังเตรียมร้านอย่างแข็งขัน  เราเลยตัดสินใจ เดินไปที่ไร่ก่อน  เก็บรูปสวยๆ สักเปป ก็น่าจะออกมาพอดีร้านเปิด



  ตัวไร่สตอเบอรี่เอง สวยมากเลย  ตอนนี้สตอเบอรี่กำลังติดผลน้อยๆ เต็มไปหมด พวกที่แดงเต็มที่แล้ว กำลังถูกคนงานเก็บอยู่ที่ท้ายไร่  ส่วนหัวไร่ที่เก็บไปหมดแล้ว เปิดให้เดินเดินเข้าไปถ่ายรูปได้ ถ้าเราไม่กลัวเลอะนะ เพราะความแฉะจุดนี้ มีสูงมาก
  สตอเบอรรี่ถูกปลูกตรงเนินเขาพอดี ดูลดหลั่นสวยงาม  อาคารเพียง 1 เดียวของไร่ สามารถขึ้นไปเพื่อมองทิวทัศน์โดยรอบ มีสวนดอกทานตะวัน  ที่รู้เวลาว่าตอนนี้เช้าแล้ว แย้มบาน เต็มที่ แม้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาไม่ถึง



" มีน "  นุ้ยเรียกผม  ที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ

" ขา ทำไมอ่อ ^ ^ " ผมตอบแล้วเดินมาหาเธอ

" ไปกินน้ำสตอเบอรี่ปั่นกัน "  นุ้ยบอก มองหน้าผมแล้วอมยิ้ม

" ห๊ะ !!  อ่อๆ  ก็ได้คะ " ผมตอบ  อากาศหนาวชื้นขนาดนี้ การกินสตอเบอรรี่ปั่น ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่ๆ  แต่ก็นะ นานๆมาที ไม่อยากขัดใจเท่าไหร่



    น้ำสตอเบอรี่ปั่น ของที่นี่ ก็เอาผลสตอเบอรี่ สดๆ ที่เพิ่งเก็บมาเมื่อกี้นั้นแหละ คนเก็บก็เอาใส่กระบุงมาวางให้ พนักงานสาว 2 คน  แล้วเริ่มเปิดร้าน... หื้ม เห็นแบบนี้ ผมก็เข้าใจหละว่าทำไมหมีขาว ถึงได้อยากลองกินสตอเบอรี่ปั่นขึ้นมา  มันดูสด แล้วก็น่ากินมากๆ  สตอเบอรี่สีแดง ตัดกับขั้วและใบสีเขียว  ลูกโตๆ รวมไว้ในกระบุงเปนพวง  ผมเองยังอยากลองกินเลย  ..

" มีนเอามั้ย "  นุ้ยถาม เธอมองสตอเบอรี่เหมือนว่า ถ้าพนักงานเผลอ จะแอบหยิบมาชิมสักลุก

" ไม่เอาดีกว่า นุ้ยกินไม่หมดหรอก  อากาศหนาวๆ แบบนี้ "  ผมบอกเธอ

" หื๊ม !!  อย่ามาแย่งกินก็แล้วกัน "  นุ้ยบอกแล้วหันไปสั่ง พนักงาน

    เท่าที่แอบมอง ส่วนผสมก็มี น้ำเชื่อม สตอเบอรี่สด ล้าง แล้วหั่น  น้ำแข็ง และนมข้นนิสสเดียว

" อร่อย ~ "  นุ้ยบอก

" ไม่หนาว หรออ... "  ผมบอก ตามองแก้ว เป็นเชิงขอลองชิม

" ไม่ให้กินหร๊อก ~ "  นุ้ยบอกกวนๆ แล้วหันหลังให้

" ชิ !!  ไม่กินก็ได้ "  ผมบอกหันหลังให้บ้าง

" อะๆ โอ๋ๆ  หันหน้ามาสิ  หันมาๆ "  นุ้ยบอก  แล้วจับแขนผม

  ผมหันกลับไป เจอกับ หมีน้อยตัวร้าย ที่มองผมตาแบ๋ว  เธอยกแก้วน้ำปั่นในมือให้สูงขึ้น อีกมือนึง หยิบหลอด ยื่นให้ผม เป็นเชิงป้อน
  ผมก้มหน้าลงไปดูดน้ำในหลอด แต่สายตามองเธอ  รสชาติของน้ำสตอเบอรี่ปั่น ไม่หวานมาก  ติดเปรี้ยวนิดๆ แต่ที่เด่นเลยคือความหอม ห็อมมม...หอม ถ้าไม่สด ก็คงจะไม่หอมขนาดนี้
    นุ้ยเปลี่ยนเป็นหน้าอมยิ้มหน่อยๆ  ผมเขิลอีกแล้ว ให้ตายสิ  แถมผมนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้ ว่าถ้าเธอรู้ว่าผมแอบหอมแก้มเธอ... เธอจะว่าอะไรไหมนะ >///////<

" อร่อยมั้ย "  นุ้ยถาม

" มากๆเลยหละ " ผมยิ้ม บอกเธอ แล้วหลบสายตา   หลบไปก็พอดีเห็น สตอเบอรี่ลูกจิ๋ว ก็เลยแกล้งเดินไปถ่ายรูป แก้เขิล

นุ้ยน่ารัก  น่ารักทุกนาที ที่ได้อยู่ใกล้ๆเลย   อากาศหนาว แค่ไหนก็ตามเหอะ  แต่ผมกำลังจะละลายแล้วเนี่ยะ  = = !  เฮ้ออ



.....................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น