วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

บันทึกถึงเมือง ปาย ตอนที่ 28

" ขายยังไงครับผม "  ผมถาม  ยิ้มให้สาวน้อย อายุสัก 10 ขวบกว่าๆ เห็นจะได้

" อันละ 70 คะ " น้องตอบ ยิ้มให้ผมเช่นกัน

" ไม่มีคนซื้อบ้างเลยหรอเนี่ยะ " ผมถามน้องกลับไปอีกที



   อาจจะเป็นเพราะ น้องมานั่งมุมเหงา คนเดียว ที่หน้าซุ้มวัดกลาง แบบนี้ ก็เลยไม่มีใคร เดินเข้ามาซื้อ แน่ๆ หรือไม่แน่น้องอาจต้องมาขาย แต่ใจอยากนอนผิงไฟอุ่นๆมากว่า  ก็เลยทำให้หน้าตาน้องตอนแรก ดูไม่น่าเข้าหา ไม่น่าซื้อเท่าไหร่  แต่วันที่อากาศหนาวๆ แบบนี้ จะให้เด็กหญิงตัวจิ๋วยืนสู้ลมหนาวคนเดียว ก็คงลำบากหละนะ

" ก็มีบ้าง..คะ  แต่ ว่า น้อย หนูเลย มานั่งพัก " น้องตอบ

" พี่เอาอันนึงนะ  ^ ^ "  ผมตอบยิ้มให้น้อง

  น้องค่อยๆหยิบ "โคมลอย" จากถุงพลาสติกที่วางอยู่ด้านหลัง  ในถุงมีโคมลอยสัก 20 - 30 อันได้ พอน้องหยิบออกมาวางข้างหน้า ก็มีคู่หนุ่มสาวอีกคู่ เดินเข้ามาถามว่า ขายยังไง เหมือนกัน

" พี่ให้จ๊ะ  ไม่เป็นไร " ผมตอบ ยื่นแบงค์ร้อยให้ แต่ไม่เอาตังทอน

" แหม่ ~ ใจดี ได้ข่าวว่า ตังไม่มีจะกลับบ้านและ "  นุ้ยแซวเล่นๆ  เธอยิ้มให้ผม ตอนออกมาจากจุดที่น้องนั่งขาย ตอนนี้ มี คนเข้าไปซื้อ อีกคู่แล้วหละ

" นิดเดียว เองน่าาา  " ผมตอบ
" เอาไปลอยกัน ดีกว่านุ้ย " ผมยิ้มให้เธอ

" ลอยที่ไหน  ลอยในวัดปะหละ " นุ้ยถาม หันกลับไปชี้ ทางเข้าวัด

" ไม่เอา อะ  ไม่โรแมนติก "  ผมบอกนุ้ย แล้วดึงมือเธอเดินออกมา

  เรากลับไปที่รถ ระหว่างทางผมก็ แวะซื้อไฟแช็คมา 1 อัน  อากาศหนาวขาดบาดใจ เริ่มหนักหน่วง ดูเวลาตอนนี้ ก็ 4 ทุ่มกว่าแล้ว  ผมขับรถออกจาก ถนนคนเดิน แต่ไม่ได้มุ่งหน้ากลับเข้าที่พัก ในใจผมอยากหาที่เงียบๆ สักที่ อาจจะเป็นสะพานไม้เก่าๆ หรือ สวนสวยๆ สักแห่ง ก็น่าจะเหมาะ


  ขับรถออกจากตัวเมืองปาย มาหน่อยเดียว อากาศหนาวก็เข้าโจมตีเราอย่างจัง  ตัวเมืองคนเยอะ เราว่าหนาวแล้ว  พ้นเขตตัวเมือง หนาวทะลุปอดไปเลย ผมหนาวจนแทบจะขับมอเตอร์ไซต์ไม่ได้ สั่นหงึกๆ นุ้ยเอง ก็ตัวสั่นดิ๊กๆ เป็นลูกแมวเปียกน้ำ เลี้ยวออกมาจากเมืองได้หน่อยนึง  ผมก็เริ่มมั่นใจว่า  นอกตัวเมืองปาย ในชั่วกลางคืน ไม่ได้เหมือน บางแสน หรือ พัทยา  ที่จะมีอะไร สนุกๆ ให้เราทำ  เพราะทุกอย่าง มืด และเงียบสงัด ราวกับตกหลุมหลงทางกลางหุบเขา  อากาศหนาว ความมืด นานๆ จะมี รถวิ่งสวนมาสักคน  พ้นปั้มน้ำมัน ไปพักเดียว ผมก็เห็น ที่ราบข้างทาง  จุดตรงนี้เป็นเนินเขาเล็กๆ  ลึกเข้าไปในซอย มีแสงไฟ จากรีสอร์ท พอให้เรามองเห็นทางได้  ผมเลี้ยวรถมาจอดตรงนี้แหละ  ล้มเลิกความตั้งใจ ที่ะไปสะพานไม้  ไม่ใช่เพราะกลัวหนาว แต่กลัวอันตรายมากกว่า ผมไม่ได้มาคนเดียวนี่



" ตรงนี้ ก็พอเนาะ " ผมบอก หลังจากที่เราจอดมอเตอร์ไซต์

" ดีแล้วว.... กำลังคิดเลยว่าจะไปถึงไหน มืด น่ากลัว " นุ้ยตอบ ตอนนี้ควันออกปากเธอมากเลยแหละ

   จุดนี้เป็นเนินเขาสูง ทำให้ผมคิดถึง จุดชมหวิวหยุนไหล  ถ้าเราได้ไปกางเต้นท์ที่นั้น แล้วจุด โคมลอย หละก็ นั้นแหละ คงฟินแน่ๆ  แต่ตรงนี้ ก็สูงพอดู ผมหยิบโคมลอย ออกมากาง ให้นุ้ยจับตรงปลายกระดาษ แล้วหยิบไฟแช็ค ออกมาจุด

  โคมลอย นั้นแต่เดิม จุดกันเพื่อสักการะ บูชา พระพุทธเจ้า พระอิศวร พระนารายณ์ และ พระพรมหม ในงานประเพณี ของชาวล้านนา  บางคนก็ขอพร ติดไปกับโคม  จะได้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ด้วย

   โชคดี  ที่ผมเองเคยจุดโคมลอยมาบ้าง  เพราะฉะนั้น เรื่องทำให้ลอย นั้นสบายมาก บางคนทำไม่เป็น มือใหม่จริงๆ  จุดแล้วก็ไม่ลอย เรี่ยไปกับพื้น ไม่ก็ไหม้กระดาษ ก่อนลอยก็มี = =



   เราจุดตรงส่วนที่เป็นวงกลมเชื้อเพลิงตรงกลางของโคม เพื่อให้ ควันเข้าไปแทนที่ ออกซิเจนข้างใน และ ลอยตัวขึ้น ผมจุดอยู่พักนึง โคมก็เริ่มตึงมือ ส่งสัญญาณว่า พร้อมจะลอยออกไปแล้ว  ผมดับไฟแช็คแล้วมายืน จับโคม ฝั่งตรงข้ามกับนุ้ย..

" อธิษฐาน ยัง " ผมถามนุ้ย  ตอนนี้ มีโคมจอมดื้อจะหนีขึ้นฟ้า  ขวางเราไว้อยู่ตรงกลาง

" กำลัง ~ " นุ้ยตอบเรียบๆ เบาๆ   เธอคงกำลังหลับตาอธิษฐาน หละมั่ง

  ผมก็ทำบ้าง......

   สวัสดีปาย  ในทึ่สุดเราก็ได้มาเจอกันนะ  ผมเฝ้าฝันถึงคุณมาตลอด  เฝ้าฝันถึงวันที่ผมจะได้เดินแบกเป้  กับแผนที่ในมือ แล้วออกตะลุยปาย มาแสนนาน ... ผมไม่คิดเลย  ว่าวันนี้ มันจะเป็นจริงได้  ปาย คุณเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรมข้ามผมไหม เธอเหมือนคุณเลยนะ เป็นคนที่ผมเฝ้าฝันถึงมาตลอด  ฝันมาตลอดว่าจะได้จับมือเธอ แล้วเดินไปด้วยกัน  วันนี้ผมเหมือน ตกอยู่ในความฝัน ที่ยิ่งกว่าฝัน  ผมได้มาเจอคุณกับคนที่ผมรัก  ผมได้จับมือเธอในอ้อมกอดของคุณ  เธอยิ้มให้ผมขณะที่ผมกำลังหลงสเน่ห์ของคุณ  และตอนนี้ผมก็กำลังจะบอกรักเธอ เหมือนที่ผมจะบอกว่าผมรักคุณ ปาย

" พร้อมรึยัง " นุ้ยส่งเสียงถามเบาๆ

" อื้ม..... เอานะ   1 .. 2 .. 3 "  สิ้นเสียงผม เราก็ปล่อยมือพร้อมๆกัน

  โคมไฟอันใหญ่ ค่อยๆ ล่องลอย ออกไปสู่ผืนฟ้ามืดมิด  ค่ำคืนนี้ดวงจันทร์เสี้ยว เหมือนรอยยิ้ม  ดาว ดาษดื่นเกลื่อนท้องฟ้าไปหมด  คุณรู้ไหม ยิ่งคุณอยู่สูงเท่าไหร่  ดาวเหล่านั้น ก็เหมือนว่าคุณจะคว้าลงมาได้  โคมไฟสีเหลือง ตัดกับทุกสิ่งบนท้องฟ้า ลอยออกไปเหมือนเรือลำเล็กที่ค่อยๆ ลอยออกสู่ห้วงนทีแห่งฝัน เสียงจิ๊งหรีด ร้องเบาๆ  อากาศหนาวเย็นคมกริบ เป็นช่วงเวลาแสนดีที่ยากจะลืมเลือน ~



" มีนอธิษฐานอะไร " นุ้ยถามผม ตาเรายังคงมอง ที่โคมลอย ที่ค่อยๆ ถอยห่างออกไป

" นุ้ยหละ " ผมถาม นุ้ย หันกลับมามองเธอ

" ไม่เอามีนบอกก่อนดิ " นุ้ยพูดเสียงเบาๆ ยิ้มเล็กๆ ให้ผม

" มีนไม่ได้อธิฐาน  แต่มีนบอกว่ามีนรักปายนะ " ผมหันกลับไปมอง ที่โคมไฟอีกครั้ง

" แล้ว มีนก็รักนุ้ยมาก เหมือนปายด้วย " แล้วผมหันกลับมามองที่เธอ

" มีน.. " นุ้ยพูดเบาๆ จ้องตาผม  เธออมยิ้มแล้วก้มหน้าลง นิดนึง

" นุ้ยหละ อธิฐาน อะไร ? " ผมถามเธอบ้าง

" นุ้ยมีความสุข..  นุ้ยขอให้ได้มาที่นี่อีก นุ้ยก็รักปายเหมือนกัน  ขอให้ต่อไปนี้เจอแต่เรื่องดีๆ " นุ้ยบอกผม

ผมเอื้อม มือไปจับมือเธอ  นุ้ยเงยหน้าขึ้นมามองผม ดวงตาคู่นั่นดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ก็ไม่ปาน



" เราเป็นแบบนี้ไปตลอดได้ไหม.. " นุ้ยถามผมเบาๆ

" หื้ม.. แบบไหนหรอ " ผมถามนุ้ยกลับงงๆ

" ไม่รู้สิ  เวลานุ้ยมีแฟนทีไร เรามักจะทะเลาะกัน สุดท้ายก็เลิกกันทุกที  นุ้ยไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว " นุ้ยพูดกับผม ตาฉ่ำๆ..

 "  มีนอยู่กับนุ้ยมาตลอด  วันที่นุ้ยเศร้าที่สุด วันที่นุ้ยดีใจที่สุด หรือแม้แต่ตอนนี้ .... นุ้ย บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกนี้ คืออะไร ทำไมนุ้ยไม่ได้รู้สึกกับมีนเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา  แต่นุ้ยอยากให้มีนอยู่ใกล้ๆ เวลาอยู่กับมีนนุ้ยสบายใจ  แต่ทำไมนุ้ยไม่อยากให้มีนมาเป็นแฟน ไม่รู้สิ นุ้ยกลัวว่าวันนึงเราจะเลิกกัน แล้วเราจะไม่เจอกันอีกเลย..
   อีกอย่างตอนนี้มีนมีแฟนแล้ว   นุ้ยรู้ว่ามีนเป็นผู้ชายที่ดี  นุ้ยเชื่อใจมีนนะถึงได้มาที่นี่กับมีน  นุ้ยคิดว่าบางทีมีนอาจจลืมเรื่องเครียดๆ ไปบ้าง  แล้วกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม "
    นุ้ยตอบ พูดเสร็จเธอก็มองหน้าผม

  ผมรู้คำตอบพวกนี้อยู่แล้วหละ .. ~   ผมเสียใจเล็กๆที่ไม่ได้ยินคำว่ารักของเธอ  แต่ไม่ได้วิตกอะไรกับมัน  ผมรู้จักเธอมานาน เหมือนที่เธอรู้จักผม  พวกเราเข้าใจว่า อะไรเป็นอะไร และเส้นของมันอยู่ตรงไหน

" มีนไม่หายไปหรอก...  มีนอยู่กับนุ้ยเสมอแหละ  วันที่นุ้ยไม่มีใคร  วันที่นุ้ยเสียใจ หันกลับมา มีนจะอยู่ข้างหลังเสมอ " ผมตอบ หัวใจแอบกรีดร้องเบาๆ



" มีนนุ้ยขอโทษนะ... " เธอบอก แล้ว เข้ามากอดผม  จากเสียงสะอึกเบาๆ ผมเข้าใจว่าเธอคงกำลังร้องไห้อยู่  ผมเข้าใจอะไรต่างๆ มากขึ้น  ช่วงเวลา 2 วัน ที่ผ่านมา คงไม่ได้มีแค่ผมหรอกที่สับสน นุ้ยเองก็คงสับสนอยู่ไม่น้อย  บางทีในมุมมองของเราเองคนเดียว อาจจะไม่สามารถตีความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ทั้งหมด  นุ้ยอาจจะสับสนจนอยากจะร้องไห้ออกมา  แต่เธอก็ยังปลอบใจผมที่ทำหน้าเป็นตูด  เธอยังคงยิ้มร่าเริงสดใส เพื่อให้ผมสดใสไปด้วย  เธอน่ารักมากนุ้ย  น่ารักจากสิ่งที่ตัวเธอเป็น  ไม่ใช่แค่รูปร่างหรือหน้าตา

" นุ้ยจะมาขอโทษมีนทำไม..... มีนต่างหาก ที่ต้องขอโทษ แล้ว ต้องขอบคุณนุ้ยด้วย ที่ยอมมาเป็นเพื่อนมีน "  ผมตอบ ลูบผมเธอเบาๆ

" นุ้ย ต่างหากที่ต้องขอบคุณมีน " เธอปล่อยตัวผมแล้ว  เงยหน้ามอง ตาแดงก่ำ น้ำตาไหลเป็นทาง

" บ้า อ่อ... มาขอบคุณมีนเรื่องอะไร " ผมตอบ แล้วเอามือเช็ดน้ำตาให้ นุ้ย ข้างนึง  อีกข้างเธอเอามือมาปาดออกเอง

" เยอะแยะ ~   ไม่ต้องทำตัวดีนักก็ได้นะ "  นุ้ยตอบ  ชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าอกผมทีนึงแรงๆ

" โอ๊ะ...  นุ้ยก็อย่าขี้แย แบบนี้อีกหละ " ผมยิ้มให้เธอ  ที่ตอนนี้ เธอก็ยิ้มให้ผมแล้ว

" มีนเป็นเพื่อนนุ้ยไปก่อนนะ ... แล้วก็ไปหาคำแก้ตัวดีๆให้แฟนหละ  อย่าทะเลาะกันบ่อยนักรู้ไหม "  นุ้ยสั่งผม เสียงดุๆ แต่หน้าเธอไม่ได้ชวนให้กลัวสักเท่าไหร่

" รับทราบครับ องค์หญิง " ผมตอบ แล้วขยี้ผมเธอเบาๆ อย่างที่ชอบทำประจำ



  สรุป เราก็ยังเป็นเหมือนเดิม คลุมเครือและหาคำตอบไม่ได้ = =! ปายก็คงช่วยผมได้แค่นี้แหละ เรากำลังมองหาว่า โคมเรามันลอยไปไหนแล้ว อยู่ดีๆ มีมีดางตก พุ่ง ฟิ้วววว ลงมา ตรงโคมลอย พอดี

" โอ๊ะ !! " " อุ๊ย !!! "  เราอุทานพร้อมกัน

" อธิษฐาน ได้อีกข้อ " ผมตอบ  หันมามองนุ้ย   ไม่ทันและ เธอหลับตาลง อธิษฐานอยู่เลย  ผมเอาบ้าง รอบนี้ไม่ขออะไรมาก นอกจากให้ได้มาปายอีก แล้วถ้ามากับนุ้ยด้วย ก็จะยิ่งดี

" ขออะไรไปคะ ? " ผมถามนุ้ย รอบนี้ผมลืมตาก่อน

" ไม่บอกหรอก  :P " นุ้ยตอบผม แล้วแลบลิ้นใส่

  เอาเถอะนะ  ถึงจะไม่ได้รับคำว่ารักตอบกลับมา แต่ช่วงเวลาดีๆ และสิ่งดีๆ ที่เรามอบให้กัน มันก็พอแล้วหละ ที่ผมจะเอ่ย คำว่ารักกับเธอได้เต็มปาก แล้วมันก็เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย  ^ ^

................................................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น